ตัววิ่ง

welcome to my blogger Information and Communication Technology for Teachers

วันอังคารที่ 11 กันยายน พ.ศ. 2555

สถานที่ท่องเที่ยวในจังหวัดสมุทรสงคราม อัมพวา

 ในอดีตเมืองอัมพวาถือว่าเป็นศูนย์กลางการคมนาคมทางน้ำที่สำคัญของจังหวัดสมุทรสงคราม มีตลาดน้ำขนาดใหญ่และชุมชนริมน้ำที่เป็นศูนย์กลางด้านพาณิชยกรรม แต่ผลกระทบของการพัฒนาการคมนาคมทางบก ทำให้ความเป็นศูนย์กลางฯ ของอัมพวาต้องสูญเสียไป ตลาดน้ำค่อยๆลดความสำคัญและสูญหายไปในที่สุด ทิ้งไว้แต่ร่องรอยของความเจริญในอดีตซึ่งยังคงปรากฏให้เห็นชัดเจนในทุกวันนี้
          และเมื่อวันที่ 11 สิงหาคม พ.ศ.2547 ทางเทศบาลตำบลอัมพวา โดยความร่วมมือร่วมใจของประชาชนในท้องถิ่น ได้ฟื้นฟูตลาดน้ำอัมพวาขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง เพื่ออนุรักษ์ความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันจะหาดูตลาดน้ำแท้ๆ ได้ยาก ให้สืบทอดตลอดไป โดยใช้ชื่อว่า "ตลาดน้ำยามเย็น" ซึ่งในปัจจุบัน นักท่องเที่ยวจะรู้จักในนามของ "ตลาดน้ำอัมพวา

          ตลาดน้ำอัมพวาจะมีทุกวันศุกร วันเสาร์ วันอาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ที่หยุดต่อเนื่อง แต่เวลา 13.00-22.00 น.
ตลาดน้ำโดยทั่วไปมักจะจัดขึ้นในเวลากลางวัน แต่ตลาดน้ำยามเย็น ที่อัมพวาแห่งนี้ จะจัดขึ้นในช่วงงเวลาเย็นเรื่อยไปจนถึงเวลาพลบค่ำ ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นตลาดน้ำแห่งแรกของประเทศไทย ที่จัดในลักษณะเช่นนี้ ในตอนเย็นชาวบ้านจะเริ่มทยอยพายเรือนำสินค้าหลากหลายนานาชนิด อาทิ อาหาร ผลไม้ พืชผัก ขนม ของกินของใช้ มาขายให้กับนักท่องเที่ยว หรือคนในท้องถิ่นที่สัญจรไปมาที่ตลาดอัมพวา ทำให้ได้สัมผัสกับธรรมชาติของชีวิตของชุมชนริมน้ำ ซึ่งเป็นที่น่าประทับใจอย่างยิ่ง นักท่องเที่ยวสามารถที่จะหาซื้ออาหารมานั่งรับประทาน บริเวณริมคลองอัมพวาติดกับตลาดน้ำ ซึ่งได้มีการจัดสถานที่ไว้ ทำให้มีความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น

เศรษฐกิจพอเพียง

" เศรษฐกิจพอเพียง แปลว่า Sufficiency Economy… คำว่า Sufficiency Economy นี้ไม่มีในตำราเศรษฐกิจ.  จะมีได้อย่างไร เพราะว่าเป็นทฤษฎีใหม่… Sufficiency Economy นั้น ไม่มีในตำราเพราะหมายความว่าเรามีความคิดใหม่ …และโดยที่ท่านผู้เชี่ยวชาญสนใจ ก็หมายความว่าเราก็สามารถที่จะไปปรับปรุง หรือไปใช้หลักการเพื่อที่จะให้เศรษฐกิจของประเทศและของโลกพัฒนาดีขึ้น. "  ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางการดำเนินชีวิตและวิธีปฏิบัติที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชทรงมีพระราชดำรัสชี้แนะแก่พสกนิกรชาวไทยมาตลอดยาวนานกว่า 25 ปี และเป็นแนวทางที่มีความสอดคล้องกับวิถีการดำเนินชีวิตที่ชุมชนในชนบทจำนวนมากปฏิบัติต่อเนื่องกันมาแต่อดีต จากหนังสือประมวลคำในพระบรมราโชวาทพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชที่เกี่ยวข้องกับปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ของอนุกรรมการขับเคลื่อนเศรษฐกิจพอเพียง กันยายน 2548 “เศรษฐกิจพอเพียงเป็นปรัชญาชี้แนวทางการดำรงอยู่และปฏิบัติตนของประชาชนทุกระดับ ตั้งแต่ระดับครอบครัว ระดับชุมนจนถึงระดับรัฐ ทั้งในการพัฒนา และการบริหารประเทศ ให้ดำเนินไปในทางสายกลาง โดยเฉพาะการพัฒนาเศรษฐกิจ เพื่อให้ก้าวทันต่อโลกยุคโลกาภิวัตน์ ความพอเพียงหมายถึงความพอประมาณ ความมีเหตุผล รวมถึงความจำเป็นที่จะต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดี                ความพอเพียงนี้มีเงื่อนไข คือ ความรอบรู้ ความซื่อสัตย์สุจริตและความวิริยะอดทนและต้องมีคุณธรรม เพื่อสร้างให้เกิดความสมดุลและพร้อมต่อการรองรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและกว้างขวางทั้งด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อม และวัฒนธรรม โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีด้านต่างๆ เช่น เทคโนโลยีด้านคอมพิวเตอร์ ซึ่งปัจจุบันได้กลายมาเป็นปัจจัยที่สำคัญอีกปัจจัยหนึ่ง ซึ่งคอมพิวเตอร์ ในปัจจุบันได้พัฒนามาให้ก้าวทันต่อกระแสโลกาภิวัตน์ เพียงแค่ใส่โปรแกรมที่ต้องการ คอมพิวเตอร์ก็จะกลายเป็นตัวช่วยหลักในการประมวลผล คิดคำนวณ ในงานด้านต่างๆ ของระบบการทำงานทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ซึ่งในปัจจุบันพบว่าไม่มีหน่วยงานใดที่ไม่มีคอมพิวเตอร์เพื่อช่วยในการทำงาน  แต่การก้าวหน้าจนมากเกินไปของเทคโนโลยี ก็ทำให้มีผลเสียหลายทาง และถ้าเรานำเทคโนโลยีนั้นมาใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะกับเยาวชน ที่รับการก้าวหน้าของเทคโนโลยีมาอย่างผิดๆ เช่น เกมส์ออนไลน์ ที่ทำให้เด็กและเยาวชนกลายเป็นคนก้าวร้าว เวปแคม ที่แสดงออกในลักษณะของภาพลามกอนาจาร การก๊อปปี้ แผ่น ซีดีทั้ง หนังและเพลง ภาพลามก ซึ่งไม่สามารถกวดขันหรือทำลายให้หมดไปได้ รวมทั้งเทคโนโลยีด้านสื่อสาร เช่นโทรศัพท์มือถือ ซึ่งในสภาวะปัจจุบันเช่นนี้ ไม่สามารถปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีนี้ได้จะเห็นว่าประชาชนทุกเพศ ทุกวัยจะมีโทรศัพท์มือถือ ใช้ บางคนมีใช้เพื่อความจำเป็น แต่บางคนก็มีเพื่อความโก้หรูในสังคม และเทคโนโลยีในปัจจุบันก็ทำให้โทรศัพท์มือถือ เจริญก้าวหน้าไปมากทั้งถ่ายรูป ดูหนัง ฟังเพลง จนบางครั้ง รองรับเทคโนโลยีมากจนเกินความจำเป็น จนทำให้มีคนจำนวนมากนำไปใช้ในทางที่ผิด ซึ่งเทคโนโลยีต่างๆเหล่านี้จึงกลายมาเป็นตัวช่วยหนึ่งในกระแสการดำเนินชีวิต  เพื่อให้ทันต่อกระแสโลกที่จะต้องแข่งขันอยู่ตลอดเวลา ซึ่งในสภาพปัจจุบันเช่นนี้ จึงไม่สามารถปฏิเสธการใช้เทคโนโลยีเหล่านี้ได้ แต่เราก็สามารถทำได้เพียงสร้างจิตสำนึก  โดยการนำวิถีพอเพียงมาใช้ โดยเริ่มจากตนเอง ครอบครัว ชุมชน องค์กร ประเทศชาติ โดยเลือกพิจารณาว่า เทคโนโลยีใดควรรับ หรือเทคโนโลยีใดไม่ควรรับ โดยเลือกรับเทคโนโลยี ที่ส่งผลทางด้านดี และต่อต้านเทคโนโลยี ที่ส่งผลเสียโดยรวมกระแสเทคโนโลยีและโลกาภิวัตน์ ไม่ได้ทำให้เกิดความเจริญก้าวหน้าในด้านเดียวแต่ในอีกด้านหนึ่งก็ทำให้เกิดผลเสียทั้งทางด้านวัตถุ สังคม สิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมจากการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว  ซึ่งแนวคิดนโยบายเศรษฐกิจพอเพียง ไม่ได้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงเพื่อให้ก้าวทันโลกแต่เป็นการส่งเสริมเทคโนโลยีให้ได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้น ด้วยการเลือกรับเทคโนโลยีที่จะส่งผลในด้านดีและเลือกรับสิ่งที่จะก่อให้เกิดประโยชน์ ต่อสังคมระยะยาวได้ ซึ่งจะเห็นได้ว่า ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง นอกจากจะไม่ขัด ต่อกระแสโลก ยังเป็นปรัชญาที่ทำให้ประเทศ ดำเนินอยู่ได้ด้วยความยั่งยืน ทั้งด้าน เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และเทคโนโลยี การพิจารณาว่าเทคโนโลยีใดควรรับหรือไม่ควรรับจะชี้ให้เห็นถึงคุณลักษณะของความพอประมาณ โดยที่ต้องมีระบบภูมิคุ้มกันในตัวที่ดีด้วย